เสริมจมูกกี่วันหายบวม ทำอย่างไรให้จมูกเข้าที่เร็วที่สุด
หลังทำศัลยกรรมไม่ว่าจะเป็นจุดไหนก็มักมีคำถามชวนสงสัยอย่างเช่น การเสริมจมูกว่า แผลบวมนานไหม? ต้องพักฟื้นอย่างน้อยกี่วัน? ทำยังไงให้ทรงจมูกเข้าที่เร็วที่สุดได้บ้าง? วันนี้เราจึงอยากมาตอบคำถามที่คาใจหลายๆคนเหล่านี้ พร้อมแนะนำวิธีดูแลตนเองหลังผ่าตัดอีกด้วย ไปชมกันเลยค่ะ
เสริมจมูกมาบวมนานไหม?
หลังรับการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก แพทย์จะให้คำแนะนำในเบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลแผล เช่น ท่านอนที่ไม่ควรนอน งดสัมผัสแผล และงดทำกิจกรรมที่อาจจะกระเทือนถึงแผลได้ ซึ่งเราจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด แล้วแผลจะค่อยๆยุบลงใน 2 - 3 สัปดาห์ สำหรับแผลผ่าตัดโดยส่วนใหญ่จะหายสนิทในเวลา 1 เดือน แต่อาการในช่วงแรกหลังจากที่เราเสริมจมูกมาอาจจะเป็นช่วงที่บวมช้ำ และทรงจมูกคล้ายสิงโต นอกจากนี้อาจจะมีอาการปวดที่จมูก และใบหน้าบวม อาจจะทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบตามคำสั่งของแพทย์
ซึ่งในช่วงนี้อาจจะมีการประคบเย็นเพื่อให้แผลที่บวมยุบลง สำหรับในช่วง 7 วันแรก อาจจะยังมีเลือดออกที่จมูกซึมออกมาหรือมีก้อนเลือด รวมถึงอาการบวมของแผลผ่าตัดหรือบวมที่ใต้ตา อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับและหายสนิทได้ใน 1 เดือน ส่วนการเข้าที่ของทรงจมูกจะเริ่มเข้าที่ในช่วง 3 เดือนทรงจมูกจะสวยขึ้นและเริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น อาการบวมจะลดลงรวมถึงส่วนที่เคยช้ำก็จะจางลงไป แต่จมูกจะเข้าที่เป็นสวยธรรมชาติและแผลหายสนิทช่วง 6 เดือน - 1 ปี แต่ระหว่างการพักฟื้นหากมีอาการผิดปกติแนะนำให้พบแพทย์ในทันที
จมูกเข้าที่เร็ว ทำยังไง?
แล้วถ้าอยากให้อาการบวมลดลง และจมูกเข้าที่ให้เร็วขึ้น วันนี้เรามีวิธีช่วยลดบวมและจมูกเข้าที่ให้ไว้ขึ้นได้ ดังนี้
1. ระวังไม่ให้แผลเปียก
เมื่อผ่าตัดเสร็จ แพทย์จะสวมเฝือกอ่อนที่จมูก เราจะต้องระวังไม่ให้เฝือกเปียก เพราะจะทำให้แผลไม่แห้ง และจะทำให้แผลหายช้า รวมไปถึงอาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้ หรืออักเสบได้อีกด้วย
2. นอนท่าที่เหมาะสม
ในช่วงแรกของการผ่าตัด การนอนก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ โดยเราแนะนำให้นอนซ้อนหมอน 2-3 ใบ เพื่อให้ศีรษะยกสูงและป้องกันจมูกไม่ให้เสียทรง รวมถึงงดการนอนตะแคงหรือคว่ำหน้าพยายามนอนราบเอาไว้ จะช่วยให้จมูกไม่เสียทรง
3. อาหารที่ดี ช่วยลดบวมได้
อาการบวมหลังศัลยกรรมเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจที่สุดอย่างหนึ่ง ดังนั้นการลดบวมที่เราอยากแนะนำคือ ทานอาหารที่ช่วยลดบวม หรือ ลดอักเสบ ก็เป็นตัวช่วยสำคัญไม่แพ้กัน เช่น ฟักทอง ส้ม ใบบัวบก กล้วย แตงโม กีวี สาหร่าย ถั่วดำ เป็นต้น ที่สำคัญคือ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตรอย่างต่ำ และเลี่ยงอาหารที่จะทำให้เกิดอาการบวมเช่น ของรสเค็ม เผ็ด และมีกลิ่นฉุน รวมถึงอาหารที่มีส่วนผสมของพริกไทย เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดน้ำมูกและจาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้แผลติดเชื้อได้และการจามอาจจะส่งผลให้แผลฉีกหรือซิลิโคนเคลื่อนที่ได้
4. ประคบเย็น ประคบร้อน ก็ช่วยได้
การประคบแผลทำจมูกจะช่วยให้อาการปวดหรือบวมทุเลาลงได้ โดยช่วงแรกหลังผ่าตัดจะแนะนำให้ประคบเย็นที่แผล ซึ่งใช้ได้ทั้งนำผ้าไปแช่น้ำเย็น หรือใช้เจลความเย็นได้ตามความสะดวก การประคบเย็นจะทำให้ช่วยลดอาการปวดที่แผล และทำให้เลือดหยุดไหล แต่ไม่แนะนำให้แปะหรือวางแผ่นทำความเย็นที่จมูกนานๆ เนื่องจากอาจจะส่งผลเสียกับซิลิโคนได้ วิธีที่ดีคือ ให้ประคบรอบแผลผ่าตัดแทน ส่วนการประคบร้อนจะเริ่มทำได้หลังจากครบ 7 วันที่ทำจมูก เพื่อให้ลดเลือดที่อยู่ข้างในแผล และลดอาการพังผืดในจมูก แต่ควรทำสลับกับการประคบเย็นเมื่อรู้สึกว่าแผลเริ่มบวมอีกครั้ง
ทริคการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
ทริคสำคัญการดูแลตัวเองในช่วงนี้คือ จะต้องรักษาความสะอาดของแผลให้ดีที่สุด เนื่องจากถ้าไม่ดูแลส่วนนี้จะทำให้แผลติดเชื้อได้ ดังนั้นการล้างแผลจึงละเลยไม่ได้ และต้องทำอย่างระมัดระวังไม่ให้แผลเปิดหรืออักเสบ รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ทำความสะอาดแผลก็ควรฆ่าเชื้อทุกครั้ง นอกจากนี้ต้องรักษาแผลให้แห้งเสมอ เพื่อให้แผลปิดสนิทได้เร็วขึ้น แต่ถ้าแผลเปียกก็ควรเช็ดให้แห้งในทันที
แม้ว่าการผ่าตัดเสริมจมูกอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น รวมถึงอาการบวมช้ำที่จะเกิดขึ้น แต่ถ้าเราทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงรักษาความสะอาดของแผลผ่าตัด จะทำให้ทั้งอาการบวมช้ำและแผลได้รับการรักษาไปในทางที่ดีและได้จมูกทรงสวยธรรมชาติอย่างใจหวัง รวมถึงในการศัลยกรรมแต่ละครั้งเราจะต้องศึกษาข้อมูลทั้งการทำศัลยกรรมทั้งก่อน-หลัง หรือคลินิกที่มีการรับรอง มีใบอนุญาตและทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญพร้อมอุปกรณ์ศัลยกรรมที่ทันสมัย เพื่อลดความเสี่ยงในการผ่าตัดที่อาจจะมีผลถึงชีวิตของเรานั่นเอง